เซลซีหลังการเข้ามาของโทมัส ทูเคิล ในเกมส์ เสมอรีล มาดริด 1-1
เมื่อมองจาก “แทกติก” และ “เกมแพลน” ของ ทูเคิล อีกนัยหนึ่งคือมองที่ ทูเคิล ว่า วิชาการเริ่มแก่กล้า บวกกับการได้ขุนพลที่ “เสี่ยหมี” และผู้อำนวยการสุดสวย มาเรียนา กรานอฟสกายา จัดหาไว้ให้ มันส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งเขาก็ทำให้เห็นในเบื้องต้นไปแล้ว เราจะมาวิเคราะห์วันนี้กัน
1. แผนการเล่น ของ ทูเคิล
รูปแบบเดิมแต่เพิ่มเติมรายละเอียด ทูเคิล เล่นหลัง 3 แต่เป็น 3-5-2 เพื่อเน้นเกมแดนกลางวัดกับกลางเรอัล มาดริด ที่มี โทนี โครส, ลูกา โมดริชและ กาเซมิโร ด้วยการถอย เมสัน เมานต์ ลงมายืนระนาบเดียวกันกับ จอร์จินโญ และ กองเต้ เท่ากับเป็นสามกองกลางที่วัดกับเรอัล ได้ เพราะมีทั้งสดและเก๋าปะปนกัน
ส่วนแนวรับ เลือก อัสปิลิ….กลับไปเล่นวิงแบ๊กด้านข้าง เพื่อประสบการณ์ ความนิ่ง รับมือ วินิซิอุส โดยมี คริสเตียนเซน ซ้อน และฝั่งนั้นมี กองเต้ อีกหนึ่งคน ทูเคิล ไม่ใช้ รีส เจมส์ กระทั่ง เล่นวิงขวา ทั้งที่มีทั้งสดและเร็ว แต่ อัสปิลิ นิ่งกว่า ซึ่ง…วินิซิอุส ก็ไปไม่เป็น กลับไปเล่นเหมือนเดิม ข้างหน้า พูลิสิช กับ แวรฺเนอร์ หน้าคู่ โจมตีได้เร็วทั้งคู่ กองหลังเรอัล มาดริด “ช้า” ฝั่งซีดาน ก็เล่น 3-5-2 เหมือนกัน ได้ วารานมายืนกับ นาโช และ มิลิตาว วิงแบ๊กขวาได้ คาร์บาฆาล ซ้ายเลือก มาร์เซโล ตัวเก๋า กลางชุดเดิม หน้าคู่ก็ เบนเซมา ก็วินิซิอุส คือสภาพทีม ซีดาน มีประมาณนี้ ใช้แทกติก ฟุตบอลนำทางเข้ามา ซึ่งต้องยกนิ้วให้ เป็นโค้ชคนอื่น สภาพทีมแบบนี้ น่าจะตกรอบไปก่อนแล้ว ส่วนครึ่งหลัง “เน้น” แทกติก ต้องการได้เล่นให้ชัวร์ เสมอกลับบ้านหรือแอบชนะได้ เกมอาจดูดรอปจากครึ่งแรกแต่นั่นเพราะ “สภาพร่างกาย” จะไปใช้เต็มกำลังไม่ได้ ต้องมีผ่อนบ้างอะไรบ้าง เกมแพลนของ ทูเคิล ในครึ่งชั่วโมงแรกเวิร์คมาก
2. สถิติที่ “ขลัง” ของเซลซี
สถิติของสำนักสถิติ gracenote ระบุว่าโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศของเชลซี หลังเสมอเกมแรก คือ 73% การพยากรณ์ด้วยสถิติของสำนักนี้ในบอลสโมสรยุโรป ส่วนใหญ่เชื่อถือได้ 85%
2.1 โค้ชชาวเยอรมันคนนี้ไม่เคยแพ้เรอัล มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
2.2 เชลซีเองก็ยังไม่แพ้เรอัล มาดริด
2.3 คริสเตียน พูลิสิช คือนักเตะอเมริกันคนแรกที่ยิงประตูในรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกและเป็นหนึ่งในห้านักเตะอเมริกันที่ยิงได้ในรอบนอคเอาต์ ของ ช.ป.ล
3. การแก้เพรสได้
เชลซี ไม่กลัวการเพรสแดนบนของเรอัล มาดริด ลูกทีมทูเคิล พร้อมบิลด์ อัพเกมจากหน้าบ้านตัวเอง ล่อให้เข้ามาเพรสกันเลย มีส่งบอลพลาดจาก กองเต้ แต่ก็ไหวตัวทัน แต่ส่วนใหญ่ พวกเขาเอาตัวรอด แก้เพรสซิงได้ แล้วเปลี่ยนให้เป็นเกมรุก ทะลุถึงหน้าบ้านเรอัล มาดริด ได้หลายครั้ง ขุนพลซีดาน ไล่ไม่จนครับ และการเพรสแดนบนและแดนสองของเรอัล มันคือจุดที่ทำให้พวกเขาเสียประตู เมื่อ รือดิเก้อ วางบอลยาวข้ามไลน์กองหลังสามคนให้ พูลิสิช ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลุดเข้าไปหลอกล่อ ก่อนยิงแฉลบ วารานเข้าไป จากนั้นมีแก้เพรสได้อีกสองสามครั้งแบบ โล่งโจ้ง เพราะหลุดนักเตะเรอัล จากกลางทะลุมาเจอกองหลังสามคน
4. เสมอเหมือนชนะ
ความมั่นใจเกิดขึ้นแน่นอน หลังได้ประตูทีมเยือน ตรงนี้คือความได้เปรียบในเกมที่สองในบ้านตัวเอง แต่นั่นก็ขึ้นกับวิธีการวางแผนการเล่นของ ทูเคิล และการควบคุม “สติ” รวมทั้ง สภาพจิตใจหรือ mentality ของนักเตะไม่ให้กระเจิดกระเจิง ฟุ้ง ไปกับผลแข่ง และก็ไม่กลัว ราชันเกินไป เอาประตูทีมเยือนมาเป็น “ต้นทุน” ในการเล่นตามแทกติกเพื่อผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้อย่างไรก็ดี…ทูเคิล และแฟนเชลซี ยังไม่สามารถ “กาชื่อ” ซีเนอดีน ซีดาน และลูกทีมสุดเก๋า เขี้ยวลากดิน ของราชันชุดขาวเจ้ายุโรป ทิ้งได้ พวกเขายังพร้อมเล่นเพื่อชนะแล้วเข้าไป “ล่าแชมป์” สมัยที่ 14 ได้อีก ขนาดเกม 35 นาทีแรกเป็นรองและน่าโดนยิงมากกว่าหนึ่ง พวกเขายังหาโอกาสยิงตีเสมอจากจังหวะที่ไม่น่ามีอะไร และเป็นการป้องกันพื้นฐานที่ไม่น่าพลาดของแนวรับเชลซี ที่แย่งกันโหม่งบอล แล้วไม่มีดักบอลจังหวะสองที่ เบนเซมา ดาวยิงเพชรฆาตรลงโทษ
เรียบเรียงโดย
น้ำหวาน