เจาะลึกประเด็นร้อนหลังเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-1 ฝาด แมนฯยู

manchester-united-1-3-psg-football-news

วิเคราะห์หลังเกมส์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ชนะ “ผีแดง” แมนฯยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ผ่านมา

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถอนแค้นสำเร็จหลังบุกมาเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-1 หลังแมตท์แรกแพ้ผีแดงมาก่อน โดยเกมนี้ “ผีแดง” ต้องเหลือแค่ 10 คนหลัง แถมมาร์คัส แรชฟอร์ดต้องมาเจ็บเพิ่มอีก ส่งผลให้ปารีสฯมี 9คะแนนเท่ากับ แมยูไนเต็ด และไลป์ซิก ต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ผ่านมา

1. 3 ประสานแนวรุก ต่อไม่ติด

โดยเกมส์นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล , มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดินสัน คาวานี่ ลงผนึกกำลังร่วมกันในแดนหน้า เพื่อล่าตาข่ายผู้มาเยือนจากปารีส แต่ทั้งสามคนแทบจะไม่เคยเล่นพร้อมกันเลย มันจึงทำให้การประสานงานของแนวรุกผีแดงนั้น ต่อไม่ติด ขาดๆเกินกันไปมา เพราะในขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จะคุ้นชินกับการเป็นศูนย์หน้าตัวยืน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเจ้าตัวมันยืนรอบอล ไม่วิ่งไล่บอล ยืนค้ำหน้าไว้ โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก การประสานงานของทั้งสามคนนั้นแทบจะไม่มีเลย ส่วนในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด เจ้าตัวถูกย้ายไปเล่นในกราบขวา ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่เจ้าตัวถนัด แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากเจ้าตัวในเกมส์นี้ เหมือนมีอาการบาดเจ็บ และการตัดสินใจที่ไม่ค่อยมั่นใจ โดยท้ายสุดเอดินสัน คาวานี่ ที่เจ้าตัวเพิ่งโชว์ฟอร์มเป็นซุปเปอร์ซับช่วยทีมพลิกแซง เซาแทมป์ตัน มาได้ 3-2 วันนี้เจ้าตัวจึงได้รับบทบาทตัวจริงเพื่อพบกับทีมเก่า จากปารีส แต่เนื่องจากการวิ่งหาตำแหน่งที่แทบจะไม่ได้บอล การที่เพื่อนร่วมทีมวิ่งฉีกตัวประกบ และเทียบไม่ได้รับบอลสวยจากเพื่อนร่วมทีม ทำให้เค้าแทบไม่มีโอกาสการยิงประตูเลย

2. ความไม่เฉียบคมของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

เนื่องจากทั้ง 3 แนวรุกแทบจะไม่สามารถประสานงานในการทำประตูกันได้แล้ว ในครึ่งแรก แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลัง เกมส์ของผีแดงก็เริ่มดีขึ้น จากจังหวะโต้กลับ จนเกือบจะทำให้มีโอกาสได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่ในจังหวะสุดท้ายนั้น แมนยู กลับไม่สามารถปิดสกอร์ลงโทษผู้มาเยือนได้ ทำให้โมเมนตั้มและความมั่นใจเริ่มกลับไปเป็นของผู้มาเยือนอีกครั้ง และผู้เล่นที่ถูกวิจารณ์กับฟอร์มที่ขาดความเฉียบคมมากที่สุด ก็เป็นของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จริงๆเจ้าตัวต้องยิงเข้าอย่างน้อย 1 ลูก กับโอกาสที่ได้รับ แต่ผลปรากฏว่า เจ้าตัวยิงไม่เข้าเลยแม้แต่ลูกเดียว และวิธีการเล่นของเค้ายังไม่สามารถสร้างความอันตรายให้กับทีมคู่แข่งได้เท่าที่ควร และความไร้ความเฉียบคมของเจ้าตัวเมื่อมีโอกาสแล้วไม่สามารถทำได้ และแน่นอนที่ทีมปีศาจแดงต้องรับผลการแข่งขันแบบนี้กลับไป ซึ่งโอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะดรอปเจ้าตัวในเกมส์หน้าก็เป็นไปได้ โดยเจ้าตัวต้องเค้นฟอร์มที่ดีกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการให้เจ้าตัว มีสมาธิ และความมั่นใจกลับคืนมา

3.เฟร็ด โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

เมื่อทีมเหลือผู้เล่นน้อยกว่า เพียงสิบคน ยังไงก็เสียเปรียบและเล่นยากอีกเป็นกองเลยทีเดียว และยิ่งมาพลาดท่าในเกมส์ระดับด้วยแล้ว มันจึงยากที่จะไม่โดนตำหนิ เพียงแต่ในกรณีของ เฟร็ด จริงๆเจ้าน่าจะโดนใบแดงตั้งแต่จังหวะที่เอาหัวไปโขกใส่เลอันโดร ปาเรเดส ซึ่งเป็นโชคดีของเจ้าตัวที่ผู้ตัดสินควักแค่ใบเหลือง ทำให้เฟร็ด ได้ลงเล่นต่ออีก ซึ่งเมื่อจบครึ่งแรก แฟนบอลก็รู้สึกได้ว่า ถ้าหากส่งเฟร็ดลงเล่นต่อในครึ่งหลังก็มีโอกาสได้ใบเหลืองอีกใบ แต่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาก็ยังให้เฟร็ด ลงเล่นต่อไปในครึ่งหลัง น่าจะเป็นอะไรที่ผิดพลาดไป ซึ่งครึ่งหลังปีศาจแดงก็บุกเต็มที่ แต่ไม่สามารถจบสกอร์ลงได้ จนในที่สุดก็ได้มาถูกลงโทษ จาก มาร์กินญอส และอีกไม่นานเฟร็ดก็โดนใบเหลืองที่สองจากการเข้าสกัด ดานิโล เปเรยร่า ทำให้โดนใบแดง ทำให้เหลือผู้เล่นเพียงสิบคน จนต้องส่งผู้เล่นในซุ้มม้านั่งสำรองลงให้หมด เทหมดหน้าตักเพื่อยิงคืนมาได้บ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล จบเกมส์ ก็แพ้ไปตามระเบียบ 3-1

เรียบเรียงโดย

น้ำหวาน