เจาะลึกหลังเกม ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 3-1

liverpool-beats-tottenham-3-1

32 วันอันยาวนาน ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ปลดล็อก ยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้เสียที และกลับมาสู่เส้นทางของชัยชนะอีกครั้ง ซึ่งเป็น 3 แต้มแรกในพรีเมียร์ลีกของปี 2021 ด้วย ในการชนะสเปอร์ส 3-1 ลิเวอร์พูลครองเกมได้มากกว่าคู่แข่งเหมือนเกมที่ผ่านๆมา แต่จุดชี้ขาดคือจังหวะจบสกอร์ที่ “คม” มากขึ้น และนี่คือบทสรุป 3 ข้อ จากเกมที่ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม

1) การปะทะกันของสเปอร์ส กับลิเวอร์พูลเป็นการดวลแย่งอันดับ 4 ถ้าใครชนะ จะกระโดดมาอยู่ท็อปโฟร์ทันที ซึ่งฟอร์มโดยรวมสเปอร์สดูดีกว่า 4 เกมหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 2 ส่วนลิเวอร์พูล 5 เกมหลังสุดไม่ชนะใครเลยสักเกมเดียว ลิเวอร์พูลเจอแจ็กพอต เมื่อฟาบินโญ่ เซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักชั่วโมงนี้ เกิดมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ทำให้ต้องส่งโจเอล มาติป ที่สภาพร่างกายยังไม่ 100% ลงเล่นเป็นตัวจริงไปก่อน โดยยืนคู่กับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเฮนเดอร์สันนั้น เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็นได้อยู่

2) ขณะที่ฝั่งสเปอร์ส ใช้แผนเดียวกับนัดที่แล้ว (ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-1) คือ 3-4-3 สามกองหลังมี โจ โรดอน, เอริค ดายเออร์ และ เบน เดวีส์ ซึ่งในสามคนนี้ มีโจ โรดอน คนเดียวที่เป็นเซ็นเตอร์แบ็กธรรมชาติ ส่วนดายเออร์ จุดเริ่มต้นคือมิดฟิลด์ตัวรับ ขณะที่เบน เดวีส์ จุดเริ่มต้นคือแบ็กซ้าย

3) ในครึ่งแรก แม้ลิเวอร์พูลจะโอกาสเยอะกว่าแต่เกมก็ยังสูสีอยู่ จนมามีจุดเปลี่ยนสำคัญคือแฮร์รี่ เคนได้รับบาดเจ็บ การที่เคน มีอาการเจ็บ ส่งผลให้เขาไม่สามารถเพรสซิ่ง ไล่บอลช่วยเพื่อนด้วย นาที 45+4 จนเฮนเดอร์สันได้ครองบอลสบายๆ นานถึง 4 วินาที ซึ่งเมื่อมีเวลาขนาดนี้ ทำให้เขาวางบอลให้ซาดิโอ มาเน่ ได้อย่างแม่นยำ ก่อนที่จะตบเข้ากลางให้ฟีร์มีโน่ ชาร์จเผาขนเป็นประตู 1-0 จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 1-0 ในครึ่งหลังเกมรุกสเปอร์สเล่นไม่ออก และไม่ค่อยช่วยไล่บอล นั่นทำให้อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เล่นง่ายมาก เพราะเขาดันขึ้นได้เลย โดยไม่ต้องพะวงเกมรับ นาที 47 เขาดันขึ้นสูงมากๆ เข้าไปถึงในเขตโทษของสเปอร์สก่อนจะตะบันด้วยขวาเป็นประตู 2-0 เป็นประตูแรกของเขาในซีซั่นนี้ สำหรับซาดิโอ มาเน่ ก็ปลดล็อกเช่นกัน ก่อนหน้านี้ 4 เกมในลีก เขาสร้างโอกาสยิงได้ 9 ครั้ง แต่ยิงไม่ได้เลยสักลูก มาในเกมนี้ ช่วงครึ่งแรกก็พยายามเต็มที่ แต่ยิงหลุดกรอบบ้าง ยิงติดเซฟบ้าง แล้วสุดท้ายก็มาทำประตูได้จริงๆ ให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1 เป็นประตูปิดเกม หลังจบเกม ปัญหาที่น่ากังวลใจคือ โจเอล มาติป เจ็บเอ็นข้อเท้า ซึ่งอาการแบบนี้ต้องพักฟื้นราวๆ 2-4 วีก ยิ่งบวกกับฟาบินโญ่ที่เจ็บไปอีกคน แปลว่าลิเวอร์พูลจะเหลือเซ็นเตอร์แบ็กแค่ 2 คนเท่านั้น คือแนท ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลียมส์ แน่นอนว่าในเกมหน้ากับเวสต์แฮม เฮนเดอร์สันจะยืนเป็นตัวจริงในตำแหน่งนี้ คู่กับฟิลลิปส์ หรือวิลเลียมส์ คนใดคนหนึ่ง

เรียบเรียงโดย

น้ำหวาน