manchester-united-2-0-man-city

4 ประเด็น แมนยูฟอร์มโหดล้มจ่าฝูงแมนซิตี้ 2-0

Mar 16, 2021 by

เกม “บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดสามารถล้มยักษ์ใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 ประตู ต่อ 0

ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาสตาร์ทเป็นตัวจริง และมี 3 แนวรุกอย่าง แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด ช่วยกันสร้างสรรค์เกมรุก โดยลูกแรกผีแดงได้ขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่มาร์กซิยาล ลากเรื่อยเข้าไปในกรอบ ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดโทษทันที โดยไม่เรียกดูวีเออาร์ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะซัดเข้าไปพาผีแดงนำก่อน และลูกที่สองจากความสามารถเฉพาะของ ลุค ชอว์ พาบอลจากครึ่งสนามขึ้นมาเองก่อน ทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด แล้ว ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นเสียบเสาไกลเข้าไปชนิดที่ เอแดร์ซอน ได้แต่ยืนมอง ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องหยุดสถิติพาเรือใบสีฟ้าชนะรวดมา 21 เกมติดต่อกันทุกรายการ เรามาดูกันว่าเกมส์นี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

1. ระเบิดฟอร์มสุดยอดแบ็คซ้าย

แบ็กซ้ายเลือดผู้ดี สามารถเล่นเกมส์รับและรุกได้อย่างโดดเด่น และยังสามารถยิงประตูตอกฝาโลง ให้กับผีแดงการันตีความยอดเยี่ยมของเขา โดยเฉพาะการเล่นเกมส์โต้กลับที่เจ้าตัวมีพละเหลือล้นอยู่แล้ว ทำให้แนวรับของ “เรือใบสีฟ้า” ต้องปวดหัวหนักเลยทีเดียวและงานนี้มีโอกาสสูงมากๆ ที่เขาจะได้ติดทีมชาติอังกฤษ ไปลุยศึกยูโรช่วงซัมเมอร์นี้

2. เฮนเดอร์สัน ฟอร์มดีเมื่อได้โอกาส

ดีน เฮนเดอร์สัน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง จากการที่ ดาบิด เด เคอา จำเป็นต้องเดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อดูแลครอบครัว ทำให้ โซลชา ตัดสินใจ ส่ง ดีน เฮนเดอร์สัน ได้ทำหน้าที่มือ 1 ของทีม และนี่คือโอกาสทองที่นักเตะจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับ “น้าลูกอม”หลังจากที่ เฮนเดอร์สัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บคลีนชีตติดต่อกันจาก 4 เกมหลังสุดที่ผ่านมา นายทวารชาวอังกฤษ ยังคงโชว์ฟอร์มสุดยอดได้อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่นิ่งมากๆ แม้จะโดน แมนฯ ซิตี้ เปิดเกมบุกโหมกระหน่ำ โดยแมนซิตี้มีโอกาสยิงถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านมือของ เฮนเดอร์สัน ไปได้ ยังคงโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ยิ่งทำให้เกมส์หน้าเจ้าตัวมีโอกาสได้ลงเล่นอีกต่อเนื่อง

3. มาร์กซิยาล ลูกรักของน้าลูกอม

แฟนบอลหลายคนคงลุ้นตัวโก่ง ที่ น้าลูกอม ส่ง องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่เจ้าตัวก็ไม่ทำให้น้าลูกอมผิดหวัง ที่เจ้าตัวโชว์ความสามารถเฉพาะตัวและด้วยความคล่องตัวกับความรวดเร็วในการลากเลื้อยจนได้จุดโทษ ทำให้แมนยูได้เปรียบและเข้าล็อคตั้งแต่ต้นเกมส์ โดยเฉพาะ มาร์กซิยาล ที่เล่นได้โดดเด่นมากๆ และกดดัน จอห์น สโตนส์ กับ รูเบน ดิอาส คู่ปราการหินแกร่งจนเสียทรง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ มาร์กซิยาล โดนตำหนิคงหนีไม่พ้นเรื่องความเฉียบคมในจังหวะการเล่นสวนกลับ โดยเฉพาะการพลาดโอกาสทอง ในกรอบเขตโทษ แต่ดันยิงไปตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ซึ่งเจ้าตัวคงต้องพัฒนาการจบสกอร์ให้เฉียบคมกว่านี้ และหากเจ้าตัวทำประตูได้ก็น่าจะเรียกความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง

4. แรชฟอร์ด กับการปั้นเกมที่มากขึ้น

ตลอดช่วงหลายฤดูกาลก่อนๆ มาร์คัส แรชฟอร์ด มักจะโดนกล่าวหาขี้เลี้ยง เห็นแก่ตัว และไม่ค่อยเล่นเพื่อทีมมากเท่าที่ควร ซึ่งซีซั่นนี้ โซลชา ก็กำลังพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคตินั้นของลูกทีมอยู่ และถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ถึงขั้นน่าประทับใจ แต่ซีซั่นนี้ก็ถือเป็นซีซั่นแรกที่ แรชฟอร์ด ทำแอสซิสต์จากการลงเล่นในทุกรายการได้ถึงเลข 2 หลัก โดยลูกที่เขาผ่านให้ ลุค ชอว์ ทำประตูได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการแอสซิสต์ครั้งที่ 10 ของเขาในซีซั่นนี้พอดีโซลชา นำทัพ “ผีแดง” ชนะ “บิ๊กซิกซ์” ได้แล้ว



เรียบเรียงโดย

น้ำหวาน